โครงการร่วมลงทุน

Thumbnail
โครงการอุปกรณ์บริการภาคพื้นและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการซ่อมบำรุง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (รายบริษัท บริการภาคพื้นเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด)

กระทรวงเจ้าสังกัดกระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ระยะเวลาโครงการ 20 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 11 กุมภาพันธ์ 2547 เอกชนคู่สัญญา บริษัท บริการภาคพื้นเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด (บริษัทฯ) มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ บริษัทฯ ได้รับสิทธิให้เข้าดำเนินโครงการ GSE ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีขอบเขตการให้บริการ ดังนี้             1. กิจการบริการภาคพื้นสำหรับอากาศยานและผู้โดยสาร ครอบคลุมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การให้บริการรถบันได การให้บริการทำความสะอาดห้องสุขา การให้บริการน้ำเพื่อการบริโภคบนอากาศยาน การให้บริการผลักและดันอากาศ การให้บริการสตาร์ทเครื่องอากาศยาน การให้บริการลากอากาศยาน การให้บริการรถเวียนแก่ผู้โดยสาร และลูกเรือ บริการเปิดและปิดประตูของอากาศยาน การจัดการลำเลียง และคัดแยกสัมภาระ การจัดการและคัดแยกจดหมาย การขนส่งอาหารระหว่างอากาศยานและพื้นที่ประกอบการ การขนส่งสินค้าระหว่างอากาศยานและอาคารคลังสินค้า จัดระวางบรรทุกสินค้าภายในอากาศยาน บริการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าและความเย็นแก่อากาศยาน บริการอุปกรณ์ภาคพื้น เช่น แผ่น Pallet ตู้ Container รถ Dolly รถลาก             2. กิจการบริการซ่อมบำรุงอุปกรณ์บริการภาคพื้นเป็นการบำรุงรักษาและซ่อมแซมอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ในการให้บริการภาคพื้นแก่อากาศยาน เช่น รถบันได รถลากสัมภาระ รถลากและดันอากาศยาน เป็นต้น บริษัทฯ ตกลงที่จะทำสัญญาเช่าที่ดินกับ ทอท. เป็นสัญญาแยกต่างหาก รูปแบบโครงการ BTO (Build Transfer and Operate) โดยบรรดาสิ่งปลูกสร้างและส่วนควบต่าง ๆ ของอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่บริษัทฯ สร้างขึ้นตามสัญญานี้ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐทันทีนับแต่การก่อสร้างเสร็จสิ้น บริษัทฯ ต้องดูแลและบำรุงรักษาอาคารสิ่งปลูกสร้างและส่วนควบต่าง ๆ ของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งอุปกรณ์และระบบให้สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.airportthai.co.th/th/home/

11 ก.พ. 2547 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการสัญญาลงทุน บริหารและประกอบการท่าเทียบเรือตู้สินค้า ซี 3 ณ ท่าเรือแหลมฉบัง

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ระยะเวลาโครงการ 30 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 4 เมษายน 2546 เอกชนคู่สัญญา บริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด (LCIT) (บริษัทฯ) มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดย กทท. จะมอบพื้นที่ท่าเทียบเรือให้บริษัทฯ ภายใน 15 วัน นับจากวันลงนามในสัญญา โดยบริษัทสามารถเข้าไปทำการก่อสร้าง และติดตั้งเครื่องมือยกขนภายหลังลงนามในสัญญาได้หลังจากได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจาก กทท. บริษัทฯ ต้องให้บริการที่จำเป็นทุกประเภทแก่ผู้ใช้ท่าเรือเพื่อให้การประกอบการท่าเทียบเรือมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจ และต้องจัดหาบรรดาเครื่องมืออุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการประกอบกิจการท่าเทียบเรือเป็นของคุณภาพดีทันสมัยตามมาตรฐานสากลรวมทั้งก่อสร้างรั้วกั้นระหว่างท่าเทียบเรือ ซี.2 และซี.3 รูปแบบโครงการ BOT (Build Operate Transfer) กทท. เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในบรรดาทรัพย์สินในท่าเรือทั้งหมดที่ กทท. เป็นผู้จัดหา LCIT เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในบรรดาทรัพย์สินที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เครื่องมืออุปกรณ์ที่บริษัทจัดหามาใช้งานในท่าเทียบเรือตลอดอายุสัญญา หลังจากที่สัญญานี้สิ้นสุดลงหรือมีการบอกเลิกสัญญาไม่ว่ากรณีใด บรรดาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ทั้งหมดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ กทท. ทันที ส่วนสังหาริมทรัพย์ของบริษัท กทท. ทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะซื้อทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้ตามราคามูลค่าทางบัญชีที่คำนวณได้จากราคาต้นทุนหักค่าเสื่อมราคาตามระยะเวลาอายุการใช้งานแล้ว รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://lcp.port.co.th/cs/internet/lcp/index.html

4 เม.ย. 2546 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ระยะเวลาโครงการ 25 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 1 สิงหาคม 2543 เอกชนคู่สัญญา บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (คู่สัญญาตอนลงนามในสัญญา บริษัท BMCL จำกัด) (บริษัทฯ) มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ โครงการนี้เกิดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยมี รฟม. เป็นเจ้าของโครงการและผู้ให้สัมปทาน มีหน้าที่จัดสร้างโครงสร้างพื้นฐานและมอบสัมปทานการเดินรถให้แก่เอกชน คือบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL เป็นผู้ให้บริการการเดินรถแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ             ระยะที่ 1 เป็นช่วงเวลาตั้งแต่ลงนามในสัญญาสัมปทานจนกระทั่งรถไฟฟ้าใต้ดินพร้อมเปิดให้บริการ โดยผู้สัมปทานมีหน้าที่ ออกแบบ ผลิต จัดหา ติดตั้ง ทดสอบ และทดลองใช้งานอุปกรณ์งานระบบร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานทางโยธาของ รฟม.             ระยะที่ 2 เป็นช่วงเวลาตั้งแต่การให้บริการและบำรุงรักษษระบบรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นเวลา 25 ปี ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ จนกระทั่งสิ้นสุด และจะต้องนำโครงสร้างพื้นฐานโยธาและงานระบบทั้งหมดที่ BMCL จัดหาคืนให้กับ รฟม. โดย BMCL ได้ว่าจ้างบริษัท Siemens จำกัด เป็นผู้รับเหมา ในลักษณะการจ้างแบบเบ็ดเสร็จ โดยเป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ผลิต ติดตั้ง ไปจนกระทั่งทำให้ระบบมีความพร้อมที่จะใช้งาน รวมถึงอบรมพนักงานให้มีความพร้อมในการให้บริการได้ด้วย และเป็นผู้บำรุงรักษาอุปกรณ์งานระบบอีกเป็นระยะเวลา 10 ปี รูปแบบโครงการ BOT (Build Operate Transfer) รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.mrta.co.th/th/chaloem-ratchamongkhon-line

1 ส.ค. 2543 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิง อากาศยานผ่านท่อแบบ Hydrant ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ระยะเวลาโครงการ 30 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 18 เมษายน 2540 เอกชนคู่สัญญา บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (บริษัทฯ) มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ ทอท. อนุญาตให้บริษัทฯ ดำเนินการเฉพาะการให้บริการระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานผ่านท่อแบบ Hydrant ภายในพื้นที่ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งที่สองเท่านั้น โดยบริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆที่กำหนดในสัญญานี้ ตลอดจนปฏิบัติตามกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง และนโยบายของ ทอท. บริษัทฯ จะใช้อาคารและสิ่งปลูกสร้างของ ทอท. เพื่อติดตั้งระบบ Hydrant โดยบริษัทฯ จะต้องดำเนินการออกแบบรายละเอียดระบบ Hydrant และจัดหาอุปกรณ์ Hydrant รวมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการติดตั้ง วางท่อ ทดสอบ ระบบ Hydrant ทั้งนี้ระบบ Hydrant ที่บริษัทฯ นำมาใช้ในกิจการดังกล่าวจะต้องเป็นของใหม่ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน บริษัทฯ รับผิดชอบในการออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษาระบบ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์สำรองที่เกี่ยวกับระบบ Hydrant ทั้งหมด บริษัทฯ ต้องรับผิดชอบต่อการจัดหาวัสดุอุปกรณ์สำรองที่เกี่ยวกับระบบ Hydrant ที่จำเป็นในการตรวจสอบ ซ่อมแซม สับเปลี่ยนทดแทนด้วยจำนวนเพียงพอตามมาตรฐานสากลและตามข้อเสนอแนะของผู้ผลิตอยู่เสมอ โดยไม่ขาดแคลนตลอดอายุสัญญานี้ รูปแบบโครงการ BTO (Build Transfer and Operate) บริษัทฯ ต้องดำเนินการออกแบบรายละเอียดระบบ Hydrant และจัดหาวัสดุอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการติดตั้ง วางท่อ ทดสอบระบบ โดยบริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนและออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าวเองทั้งสิ้น บริษัทฯ ต้องส่งมอบและโอนกรรมสิทธิ์ระบบ Hydrant รวมทั้งวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับระบบทั้งหมดพร้อมกับการติดตั้งที่บริษัทฯ จัดหามาเพื่อใช้ในการให้บริการตามสัญญานี้ นับตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการเป็นต้นใปจนจบตลอดให้อายุสัญญานี้ให้แก่รัฐ รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.airportthai.co.th/th/home/

18 เม.ย. 2540 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการสัญญาลงทุนก่อสร้าง บริหาร และประกอบการท่าเทียบเรือสินค้ากอง เอ 5 ณ ท่าเรือแหลมฉบัง

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ กรมท่าเรือแห่งประเทศไทย ระยะเวลาโครงการ 30 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 11 เมษายน 2539 เอกชนคู่สัญญา บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ โครงการท่าเทียบเรือแห่งนี้เป็นท่าเรือแบบ Ro/Ro (Roll - on/Roll - off) ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการส่งออกรถยนต์และการให้บริการเรือสินค้าทั่วไป โดยมีระยะเวลาสัญญา 25 ปี ความยาวหน้าท่า 450 เมตร และความลึกหน้าท่า 14.0 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (MSL) สามารถรองรับเรือสินค้าทั่วไปขนาดสูงสุด 70,000 DWT และมีขีดความสามารถในการรองรับการส่งออกรถยนต์ได้สูงสุดถึง 700,000 คันต่อปี รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : - https://lcp.port.co.th/cs/internet/lcp/Terminal_Operater_A5.html - https://www.namyongterminal.com/business/terminal_services

11 เม.ย. 2539 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการสัญญาลงทุนก่อสร้าง บริหาร และประกอบการท่าเทียบเรือสินค้า บี 5 ณ ท่าเรือแหลมฉบัง

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ระยะเวลาโครงการ 30 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 11 เมษายน 2539 เอกชนคู่สัญญา บริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด (LCIT) มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ กทท. มีหน้าที่ในการให้หรือจัดให้มีบริการเกี่ยวกับร่องน้ำทางเข้าท่าเรือ ทางเดินเรือ แอ่งจอดเรือ เครื่องหมายช่วยการเดินเรือการน้ำร่อง และการลากจูง เรือทุกลำจะต้องใช้บริการนำร่องตามระเบียบของกรมเจ้าท่าที่กำหนดให้ใช้นำร่องในการเคลื่อนย้ายเรือภายในท่าเรือ รวมทั้งการเทียบท่าและออกจากท่า กรมเจ้าท่าจะเป็นผู้จัดเจ้าพนักงานนำร่อง เรื่อนำร่อง และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ โดยที่ กทท. ไม่มีหน้าที่ให้บริการดังกล่าวแต่อย่างใด เรือทุกลำจะต้องใช้บริการเรือลากจูงจามระเบียบที่กรมเจ้าท่ากำหนดในการนำเรือเข้า-ออก จากท่าเรือ รวมทั้งการเทียบท่าและออกจากท่า โดย กทท. หรือบริษัทฯ จะเป็นผู้ให้บริการด้านเรือลากจูง สัญญามีกำหนด 30 ปี นับแต่วันที่หนึ่งของเดือนถัดไปจากเดือนที่มีการลงนามในสัญญา ซึ่งตามสัญญานี้ เริ่มต้นวันที่ 1 พฤษภาคม 2539 และสิ้นสุด 30 เมษายน 2569 หลังจากที่สัญญาสิ้นสุดลง บริษัทฯ มีสิทธิขอต่ออายุสัญญาได้อีก 5 ปี บริษัทจะต้องยื่นคำร้องขอต่อสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ปี ก่อนที่สัญญานี้จะสิ้นสุดลง รูปแบบโครงการ BOT (Build Operate Transfer) กทท. จะมอบพื้นที่ท่าเทียบเรือทั้งหมดตามสัญญาให้บริษัทฯ เพื่อใช้ประกอบการภายใน 15 วัน นับจากวันลงนามในสัญญาบริษัทฯ จะต้องจัดหาบรรดาเครื่องมืออุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมทั้งหมดเท่าที่จำเป็นสำหรับการประกอบกิจการท่าเทียบเรือ หลังจากสัญญาได้สิ้นสุดลงไม่ว่ากรณีใด ให้บรรดาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ทั้งหมดตกเป็นทรัพย์สินของ กทท. ทันที ส่วนสังหาริมทรัพย์ กทท. มีสิทธิที่จะซื้อทั้งหมดหรือบางส่วนตามราคามูลค่าทางบัญชีที่ได้หักค่าเสื่อมราคาสะสมตามระยะเวลาการใช้งานแล้ว หรือต่ำกว่านั้น รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://lcp.port.co.th/cs/internet/lcp/index.html

11 เม.ย. 2539 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการบริหารศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงการคลัง หน่วยงานเจ้าของโครงการ กรมธนารักษ์ ระยะเวลาโครงการ 50 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 9 เมษายน 2539 (ฉบับปรับปรุง) เอกชนคู่สัญญา บริษัท เอ็น ซี ซี แมนเนจเม้นท์แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ กรมธนารักษ์ตกลงให้ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริหารและดำเนินกิจการอาคาร และสิ่งปลูกสร้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องใช้ประจำศูนย์การประชุมฯ โดยบริษัทฯ เก็บค่าบริการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขแห่งสัญญานี้ และให้กรรมสิทธิ์ตกเป็นของรัฐ กำหนดระยะเวลาการบริหารและดำเนินกิจการ ดังนี้             ช่วงที่ 1 นับแต่วันที่ 9 เมษายน 2539 ถึงวันที่ก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างยกกรรมสิทธิ์ให้รัฐ หากครบกำหนดระยะเวลา การก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างยังไม่แล้วเสร็จให้ถือว่าวันสิ้นกำหนดระยะเวลาก่อสร้างเป็นวันที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ             ช่วงที่ 2 มีระยะเวลา 25 ปี นับแต่วันถัดจากวันที่ก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างยกกรรมสิทธิ์ให้รัฐแล้วเสร็จหรือวันที่ถือว่าแล้วเสร็จตามช่วง ที่ 1 รูปแบบโครงการ BTO (Build Transfer and Operate) รัฐตกลงให้บริษัทฯ บริหารและดำเนินการและบริษัทฯ ตกลงรับบริหารและดำเนินกิจการอาคาร และสิ่งปลูกสร้างทั้งหลายซึ่งตั้งอยู่บนที่ราชพัสดุ บริษัทฯ จะต้องดำเนินการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ดังมีรายละเอียด เงื่อนไข แบบแปลน กำหนดเวลาและข้อกำหนดในการก่อสร้างด้วยค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ เอง และให้กรรมสิทธิ์ตกเป็นของกระทรวงการคลังทันทีที่ก่อสร้างเสร็จและรัฐได้รับมอบไว้โดยถูกต้องเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.treasury.go.th/th/

9 เม.ย. 2539 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการสัญญาเช่าสำหรับการบริหารและประกอบการท่าเทียบเรือตู้สินค้า บี 1

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ระยะเวลาโครงการ 27 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 9 ตุลาคม 2538 เอกชนคู่สัญญา บริษัท แอลซีบี คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล 1 จำกัด มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการโครงการท่าเทียบเรือแห่งนี้เป็นท่าเรือสำหรับตู้สินค้า ความยาวหน้าท่า 300 เมตร และความลึก 14.0 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (MSL) โดยสามารถรองรับเรือตู้สินค้าขนาดสูงสุด 50,000 DWT ให้บริการขนส่งและรับตู้สินค้าได้ประมาณ 0.6 ล้าน TEU ต่อปี รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://lcp.port.co.th/cs/internet/lcp/Terminal_Operater_B1.html

9 ต.ค. 2538 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการบริหารและประกอบการท่าเทียบเรือตู้สินค้า บี 3 ณ ท่าเรือแหลมฉบัง

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ระยะเวลาโครงการ 26 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 1 มกราคม 2538 เอกชนคู่สัญญา บริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ โครงการท่าเทียบเรือแห่งนี้เป็นท่าเรือสำหรับตู้สินค้า ความยาวหน้าท่า 300 เมตร และความลึก 14.0 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (MSL) โดยสามารถรองรับเรือตู้สินค้าขนาดสูงสุด 50,000 DWT ให้บริการขนส่งและรับตู้สินค้าได้ประมาณ 0.6 ล้าน TEU ต่อปี รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://lcp.port.co.th/cs/internet/lcp/ท่าเทียบเรือ_B3.html

1 ม.ค. 2538 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการบริหารและประกอบการท่าเทียบเรือตู้สินค้า บี 4 ณ ท่าเรือแหลมฉบัง

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ระยะเวลาโครงการ 27 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 1 มกราคม 2537 เอกชนคู่สัญญา บริษัท ที ไอ พี เอส จำกัด มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ โครงการท่าเทียบเรือแห่งนี้เป็นท่าเรือสำหรับตู้สินค้า ความยาวหน้าท่า 300 เมตร และความลึก 14.0 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (MSL) โดยสามารถรองรับเรือตู้สินค้าขนาดสูงสุด 50,000 DWT ให้บริการขนส่งและรับตู้สินค้าได้ประมาณ 0.6 ล้าน TEU ต่อปี รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://lcp.port.co.th/cs/internet/lcp/ท่าเทียบเรือ_B4.html  

1 ม.ค. 2537 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการสัญญาเช่าสำหรับการบริหารและประกอบการท่าเทียบเรือตู้สินค้า บี 2

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ระยะเวลาโครงการ 27 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 30 มีนาคม 2536 เอกชนคู่สัญญา บริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ โครงการท่าเทียบเรือแห่งนี้เป็นท่าเรือสำหรับตู้สินค้า ความยาวหน้าท่า 300 เมตร และความลึก 14.0 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (MSL) โดยสามารถรองรับเรือตู้สินค้าขนาดสูงสุด 50,000 DWT ให้บริการขนส่งและรับตู้สินค้าได้ประมาณ 0.6 ล้าน TEU ต่อปี รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://lcp.port.co.th/cs/internet/lcp/ท่าเทียบเรือ_B2.html

30 มี.ค. 2536 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (รถไฟฟ้าสายสีเขียว)

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานเจ้าของโครงการ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระยะเวลาโครงการ 30 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 9 เมษายน 2535 เอกชนคู่สัญญา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (BTSC) มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อขยายการขนส่งมวลชน และเพื่อให้เป็นทางเลือกอื่นแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในการเดินทางไปและกลับจากการทำงาน และการเดินทางสัญจรไปมาในกรุงเทพมหานคร โดยมีการลงนามในสัญญาเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2535 มีอายุสัมปทาน 30 ปี นับจากวันแรกที่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายการขนส่งมวลชน และเพื่อให้เป็นทางเลือกอื่นแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในการเดินทางไปและกลับจากการทำงาน และการเดินทางสัญจรไปมาในกรุงเทพมหานคร โดย BTSC เป็นผู้ออกแบบก่อสร้าง ดำเนินงาน และบำรุงรักษาระบบ หลังจากที่ระบบรถไฟฟ้าเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ ภายใต้เงื่อนไขของสัญญา BTSC มีสิทธิได้รับรายได้จากกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส อันรวมถึง การโฆษณา การให้สิทธิ และการเก็บค่าโดยสารในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส BTSC มีสิทธิที่จะกำหนดกฎระเบียบในการดำเนินงานได้ กทม. มีสิทธิกำหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมของระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส แต่หากกฎระเบียบดังกล่าวมีผลกระทบทางลบต่อ BTSC กทม. จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก BTSC ก่อน การโอนกรรมสิทธิ์ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ             1. อสังหาริมทรัพย์ที่เกิดจากการก่อสร้างหรืองานโครงสร้าง จะโอนในลักษณะ BTO คือ BTSC จะต้องโอนกรรมสิทธิ์เป็นของ กทม. เมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์             2. ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ซึ่งรวมถึงขบวนรถไฟฟ้าในปัจจุบันและที่จะซื้อเพิ่มในอนาคต จะโอนในลักษณะ BTO (Build Transfer Operate) คือ BTSC จะโอนกรรมสิทธิ์เป็นของ กทม. เมื่อสัมปทานสิ้นสุดลง รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://main.bangkok.go.th/

9 เม.ย. 2535 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการทางหลวงสัมปทานในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอนดินแดง-ดอนเมือง และทางหลวงสัมปทาน ตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือ

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ กรมทางหลวง ระยะเวลาโครงการ 45 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน 21 สิงหาคม 2532 (ฉบับแก้ไข) เอกชนคู่สัญญา บริษัท ดอนเมืองโทล์ลเวย์ จำกัด มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ โครงการทางหลวงสัมปทานในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอนดินแดง – ดอนเมือง ระหว่าง กม. 5 + 700 ถึง กม. 21 + 100 ระยะทาง 15.4 กิโลเมตร ครั้งแรกลงนามในสัญญาสัมปทานฯ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2532 อายุสัมปทาน 25 ปี ต่อมามีการแก้ไขสัญญาสัมปทาน ครั้งที่ 2 ตามบันทึกข้อตกลงฯ ฉบับที่ 2/2539 ให้ผู้รับสัมปทานได้รับสัมปทานเพิ่มเติมตอน ต่อขยายทางด้านทิศเหนือ (ดอนเมือง – อนุสรณ์สถาน) ระหว่าง กม. 21 + 100 – กม. 26 + 700 รวมระยะทาง 5.6 กิโลเมตร และให้อายุสัมปทานเดิมรวมทั้งตอนต่อขยายมีอายุสัมปทาน 25 ปี นับตั้งแต่วันลงนามบันทึกข้อตกลงฯ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2539 มีการแก้ไขสัญญาสัมปทานฯ ครั้งที่ 3 ตามบันทึกข้อตกลงฯ ฉบับที่ 3/2550 ให้อายุสัมปทานเดิมและตอนต่อขยายมีอายุสัมปทาน 27 ปี นับแต่วันที่ลงนามในบันทึกข้อตกลง ฉบับที่ 3/2550 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2550 รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : - https://www.doh.go.th/ - https://www.tollway.co.th/th/about-us/dmt-today

21 ส.ค. 2532 อ่านต่อ
Thumbnail
โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช ส่วน A B C D)

กระทรวงเจ้าสังกัด กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเจ้าของโครงการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ระยะเวลาโครงการ 30 ปี วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน - 22 ธันวาคม 2531 - 20 กุมภาพันธ์ 2563 (ฉบับแก้ไขโดยอายุสัญญาหมดปี 2578) เอกชนคู่สัญญา บริษัท ทางด่วนกรุงเทพจำกัด (BECL) มูลค่าโครงการ N/A รายละเอียดโครงการ โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช) เป็นการก่อสร้างทางพิเศษยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 38.5 กิโลเมตร โดยแบ่งพื้นที่บริการเป็น 2 โครงข่าย ดังนี้ โครงข่ายในเมือง พื้นที่ส่วน A เป็นเส้นทางระหว่างถนนรัชดาภิเษกบริเวณประชาชื่น ถึง ถนนพระราม 9 มีความยาวประมาณ 12.4 กิโลเมตร พื้นที่ส่วน B เป็นเส้นทางระหว่างโรงกรองน้ำสามเสนถึงบางโคล่ต่อจากพื้นที่ส่วน A บริเวณทางแยกต่างระดับพญาไทลงไปทางใต้เชื่อมต่อทางพิเศษเฉลิมมหานครบริเวณทางแยกต่างระดับบางโคล่รวมระยะทางประมาณ 9.4 กิโลเมตร โครงข่ายนอกเมือง พื้นที่ส่วน C ต่อจากพื้นที่ส่วน A ที่ถนนรัชดาภิเษกบริเวณประชาชื่นขึ้นไปทางเหนือจนถึงถนนแจ้งวัฒนะเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร โดยต่อเชื่อมกับทางพิเศษอุดรรัถยา พื้นที่ส่วน D เป็นเส้นทางจากถนนพระราม 9 ถึงถนนศรีนครินทร์มีแนวเส้นทางต่อจากพื้นที่ส่วน A บริเวณถนนพระราม 9 ไปทางตะวันออกตัดผ่านถนนรามคำแหงสิ้นสุดที่ถนนศรีนครินทร์ ระยะทางประมาณ 8.7 กิโลเมตร โดยเปิดให้บริการส่วนแรกจากถนนพระราม 9 ถึงถนนรามคำแหง ระยะที่ 2 จากถนนรามคำแหง ถึงถนนศรีนครินทร์ รูปแบบโครงการ BTO (Build Transfer and Operate) บรรดางานก่อสร้างที่ BECL ได้ทำขึ้น รวมทั้งทางพิเศษ ระบบทางพิเศษ ถนนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องและสิ่งก่อสร้างถาวรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหรือใช้ประโยชน์ในทางพิเศษจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ กทพ. ทันทีในวันเปิดดำเนินการโครงการ หรือวันเปิดใช้ทางพิเศษ BEC  มีสิทธิใช้งานและมีหน้าที่ดำเนินการบำรุงรักษาทางพิเศษ ระบบทางพิเศษ และสิ่งก่อสร้างถาวรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหรือใช้ประโยชน์ในทางพิเศษและระบบทางพิเศษตามแผนและมาตรการที่เสนอไว้ รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.exat.co.th

22 ธ.ค. 2531 อ่านต่อ