โครงการสัญญาลงทุนก่อสร้าง บริหาร และประกอบการท่าเทียบเรือ เอ 3 ซี 1 ซี 2 ดี 1 ดี 2 และ ดี 3 ณ ท่าเรือแหลมฉบัง
กระทรวงเจ้าสังกัด
กระทรวงคมนาคม
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)
ระยะเวลาโครงการ
30 ปี
วันที่ลงนามในสัญญาร่วมลงทุน
6 ตุลาคม 2547
เอกชนคู่สัญญา
บริษัท ฮัทชิสัน แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด (HLT) (บริษัทฯ)
มูลค่าโครงการ
N/A
รายละเอียดโครงการ
วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการขนส่งสินค้าทางทะเล โดยบริษัทฯ ต้องก่อสร้างท่าเทียบเรือ A3 ภายใน 18 เดือน ท่าเทียบเรือชุด C (C1 และ C2) 36 เดือน ท่าเทียบเรือชุด D (D1, D2 และ D3) เมื่อมีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่าเทียบเรือที่ได้เปิดดำเนินการแล้วมากกว่า 75% ของความสามารถในการขนถ่ายสินค้าของท่าเทียบเรือที่ได้เปิดดำเนินการแล้วไม่เกิน 7 ปี เรือทุกลำจะต้องใช้บริการนำร่องตามกฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง หรือประกาศใด ๆ ของกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชนาวี ที่กำหนดให้ใช้นำร่องในการเคลื่อนย้ายเรือภายในท่าเรือ รวมทั้งการเทียบท่าและออกจากท่า ทั้งนี้ ในปัจจุบันกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีจะเป็นผู้จัดเจ้าพนักงานนำร่องและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ โดยที่ กทท. ไม่มีหน้าที่ให้บริการในเรื่องดังกล่าวนี้แต่อย่างใด เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การปฏิบัติเป็นอย่างอื่น เรือทุกลำจะต้องใช้บริการเรือลากจูงตามกฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง หรือประกาศใด ๆ ที่กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีกำหนดในการนำเรือเข้า - ออกจากท่าเรือ รวมทั้งการเทียบท่าและออกจากท่า โดย กทท. หรือบริษัทที่ กทท. มอบหมาย จะเป็นผู้ให้บริการด้านเรือลากจูง บริษัทฯ ต้องใช้ท่าเทียบเรือ C1, C2, D1, D2 และ D3 เพื่อการรับ/ส่งมอบ เก็บรักษา และบรรทุก/ ขนถ่าย เฉพาะสินค้าในระบบตู้สินค้าเท่านั้น หากบริษัทฯ ประสงค์ที่จะดำเนินการในระบบอื่นจะต้องได้รับความเห็นชอบเป็นหนังสือจาก กทท. ก่อน และบริษัทฯ จะต้องใช้ท่าเทียบเรือ A3 เพื่อเป็นท่าเรือเอนกประสงค์ โดยให้สามารถขนส่งตู้สินค้าและสินค้าทั่วไป รูปแบบโครงการ BOT (Build Operate Transfer) กทท. จะมอบพื้นที่ท่าเทียบเรือทั้งหมดตามสัญญาให้บริษัทฯ เพื่อใช้ประกอบการภายใน 15 วัน นับจากวันลงนามในสัญญา บริษัทฯ จะต้องจัดหาบรรดาเครื่องมืออุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมทั้งหมดเท่าที่จำเป็นสำหรับการประกอบกิจการท่าเทียบเรือ และเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในบรรดาทรัพย์สินที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เครื่องมืออุปกรณ์ที่จัดหามาใช้งานในท่าเทียบเรือตลอดอายุสัญญา หลังจากสัญญาได้สิ้นสุดลงไม่ว่ากรณีใด ให้บรรดาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ทั้งหมดต้องตกเป็นทรัพย์สินของ กทท. ทันที ส่วนสังหาริมทรัพย์ กทท. มีสิทธิที่จะซื้อทั้งหมดหรือบางส่วนตามราคามูลค่าทางบัญชีที่ได้หักค่าเสื่อมราคาสะสมตามระยะเวลาการใช้งานแล้ว หรือต่ำกว่านั้น
รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม :
https://lcp.port.co.th/cs/internet/lcp/index.html
6 ต.ค. 2547
อ่านต่อ